ตัวเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษจะมีที่มาหลักๆ 2 ที่ครับ คือของ Acclaim ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเกมส์ Dekaron (ในชื่อ 2Moons) ทางแถบ US และ Canada กับ GameTribe ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางแถบโซนยุโรป ส่วนเกาหลี กับญี่ปุ่นนี่ไม่มีปัญญาแปลมาให้อ่านกันครับ ^^"
อยากให้ลองอ่านกันดูนะครับ เพราะเนื้อเรื่องจะมีหลายๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเควสท์ต่างๆ ในเกมส์ ... ทำให้เล่นเกมส์ได้อรรถรสมากขึ้น
อันนี้ของ Acclaim นะครับ ... ของ GameTribe จะแตกต่างกันออกไปนิดนึง ในรายละเีอียด ...
พวกเขาขนานตำนานนี้ว่า "ความเสื่อมทราม". จุดเริ่มต้นของตำนานเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ทั้งสองดวงโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน, กษตริย์ผู้ถูกเนรเทศ, ริคตัส (Rictus) ได้ใช้เวทย์มนต์เปิดประตูมิติ และปลดปล่อยพวกปีศาจร้าย, พิทบอร์น (Pitborn) รวมถึงหัวหน้าของพวกมัน, อแบดดอน (Abaddon) ออกมาสู่ ฮาราน (Haran), ดินแดนแห่งความเป็นอมตะ. ด้วยความยะโสของตน, ริคตัส คิดว่าเขาสามารถควบคุมพวกมันได้ และสิ่งนี้จะช่วยให้เขาสามารถป่าวประกาศความยิ่งใหญ่ในการปกครองดินแดน ฮาราน. เขาคิดผิด ไม่มีผู้ใดสามารถเป็นพันธมิตรกับ อแบดดอน, ราชาแห่งนรก ผู้มีคำอวยพรเป็นความโหดร้าย และเจ็บปวด มีความลุ่มหลงในความโศกเศร้าเสียใจ. เขาได้พันธนาการ ริคตัส ไว้ในความมืดมิดชั่วกาลนาน ริคตัส ได้ตายลงในนั้น ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะตายอีกครั้ง เป็นอย่างนี้ไปหาที่สิ้นสุดไม่ได้, ในทุกครั้งที่ผู้ใดล้มลงด้วยกรงเล็บ, คมเขี้ยว หรือดาบ ทุกครั้งที่ผู้หญิง หรือเด็กถูกเผาไหม้ดำเป็นตอตะโก, ขาดอากาศจนทุรนทุลาย ใบหน้ากลายเป็นสีฟ้า หรืออดอยากจนผิวหนังซีดเซียว ให้รู้เอาไว้ว่า นี่คือความปรารถนาของ อแบดดอน.
คนโง่เขลา ...
พวก พิทบอร์น ได้กระจายไปทั่วดินแดน ฮาราน, การฆ่าฟันอย่างโหดร้ายทารุณได้ชะโลมผืนแผ่นดินที่เคยอุดมสมบูรณ์ของ ฮาราน ให้กลายเป็นสีแดงไปด้วยเลือด. มนุษยชาติดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดจากการทำลายล้าง. ด้วยความเศร้าเสียใจ บวกกับความสิ้นหวัง กษัตริย์แห่งมวลมนุษย์ ไทรัส (Tirus, the Grim) ได้ตัดสินใจปลิดชีวิตของตนด้วยมือของตัวเอง
จากนั้นได้มีการปรากฎตัวขึ้นของ ทริสเท, ผู้หญิงในชุดขาว (Trieste, the White Lady) ผู้เป็นผู้พยากรณ์, นักเวทย์, นักรบ, ผู้ศักดิ์สิทธิ์ และราชินีแห่งดินแดนน้ำแข็ง ไฮฮาฟฟ์ (Haihaff). เธอได้รวบรวมบรรดานักรบที่ยังมีกำลังให้ลุกขึ้นสู้. เมื่อนั้น เพื่อช่วยเหลือทริสเท จึงได้เกิดการผนึกกำลังระหว่าง เวทย์มนต์ดำแห่ง ซัมมอนเนอร์ (Summoner), พลังบริสุทธิ์แห่ง อินคาร์ (Incar), ดาบแห่ง อาซัวร์ (Azure) , คันศร แห่ง ซีจิต้า (Segita), ความแข็งแกร่งของ บากิ (Bagi) และสัมผัสแห่งพรของ เซเนล (Segnale). สมครามได้อุบัติขึ้น ผืนแผ่นดินถูกปกคลุมไปด้วยเศษซากของพวก พิทบอร์น. ความกล้าหาญของพวกเขานั้นนับประมาณไม่ได้ แต่จำนวนของนักรบนั้นมีน้อยเกินไป. บรรดาเหล่าสมุนของอแบดดอนได้บุกเข้ามาจากประตูมิติ ที่ซึ่งพวกมันได้เฝ้าคอยวันเวลานี้อยู่ในความมืดมานับร้อย นับพันปี ที่ซึ่งความกระหายเลือดของพวกมัน รอวันที่จะได้รับการตอบสนอง. สุดท้าย นอกจากความกล้าหาญที่ดำรงอยู่ในตำนาน, กองทัพแห่ง ฮารานก็ได้ล้มลง ... ชั่วนิรันดร์
ในช่วงเวลานั้น ทริสเทได้หายตัวไปเมื่อไร ไม่มีใครทันได้สังเกต. เธอได้แอบเข้าไปยังปากทางของประตูมิติ และสังหารเหล่ายามผู้คุ้มครองประตูนั้น และที่นั่นเอง, เธอได้สละชีวิตของตน ผนึกประตูมิตินั้นไว้อีกครั้งด้วยเลือด และชีวิตของเธอ. อแบดดอนถูกดึงกลับเข้าไปในห้วงแห่งความมืดมิดอีกครั้ง มันกรีดร้องคำรามด้วยความเคียดแค้น ... เสียงนั้นได้เงียบหายไปในที่สุด, เหล่าบุตรหลานของ ทริสเท ได้รับชัยชนะ.
กาลเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป หลังจากหลายศตวรรษแห่งความสงบสุข, ผนึกของหญิงในชุดขาวเริ่มเสื่อมถอยลง. ประตูมิติเริ่มมีรอยแตกร้าว และอีกครั้งหนึ่งที่เหล่า พิทบอร์น ได้บุกเข้ามาในดินแดนแห่ง ฮารานอีกครั้ง. วันนี้ไม่มีอีกแล้ว หนทางที่มีความปลอดภัย, เมืองที่เคยยิ่งใหญ่ และเป็นที่ภาคภูมิใจได้ล่มสลายลง คงเหลือเพียงแต่ โลอา (Loa) และ ไบรเคน (Braiken) เท่านั้น. อย่างไรก็ตาม, ความหวังยังคงมีอยู่. ประชาชนแห่ง ฮาราน ได้ลุกขึ้นสู้ ด้วยดาบ และธนู ด้วยเวทย์มนต์แห่งเปลวเพลิง และด้วยสัตว์อสูร. ตามตำนานที่เล่าขานกันไว้ ทริสเท จะกลับมา และอีกครั้งหนึ่ง ดวงจันทร์ทั้งสองจะโคจรเข้ามาบรรจบกัน. ตราบจนถึงเวลานั้น ด้วยดาบเท่านั้นที่จะตัดสินชะตาชีวิตของพวกเรา ... "ไม่มีความปราณีต่อผู้อ่อนแอ, ไม่มีความเศร้าเสียใจต่อผู้ตายจาก, ไม่มีน้ำตาสำหรับการฆ่าฟัน !" (“No mercy for the weak, no pity for the dying, no tears for the slain!”)
Trailer: The White Lady VS Pitborns
Source:
Acclaim
Tuesday, 7 October 2008
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment